ค่าไฟฟ้าเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 จะเห็นว่าการไฟฟ้า (ทั้งส่วนภูมิภาค และนครหลวง) ขึ้นค่า FT อีกประมาณ 277% ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมยังใช้ไฟเท่าเดิม แต่ค่าไฟขึ้นมาอีกเกือบเท่าตัว ทั้งนี้เป็นเพราะที่ผ่านมา (สิงหาคม 65) การไฟฟ้าเขาขึ้นค่า FT แล้วอีกประเด็นที่ชวนให้คิดคือ ค่าบริการและค่า FT ไปโผล่ก่อนการคิด VAT 7% ทำให้รวมค่าพวกนี้ออกมาแล้ว ยังมาคิดค่า Vat อีก ทำให้ประชาชนตัองเสียค่าไฟเมื่อเทียบกับเดือน กรกฏาคม 2565 แทบทุกหลังคาเรือน เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว จะเห็นว่าหลายคนนอกจากได้รับผลกระทบจากพิษโควิด พิษเศรษฐกิจ ยังมาได้รับผลกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นเอามาก ๆ หลายคนกังวลว่าแบบนี้จะไหวไหม
คราวนี้เราจะมีมาตรการช่วยเหลือตัวเองอย่างไร กับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ขั้นแรกเราต้องโฟกัสไปที่เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มันจะต้องทำอะไรสักอย่างให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้น ลดการใช้ไฟฟ้าลง อันดับแรกคือเราต้องสำรวจ ตรวจสอบ เช่น ระบบแสงสว่างเรายังใช้หลอดแบบไส้ แบบเก่ากันอยู่หรือไม่ ถ้าใช้ก็เปลี่ยนออกมาใช้เป็นหลอด LED ซึ่งให้ความสว่างมากกว่า แต่กินไฟน้อยกว่ากันดีกว่า หรือเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น หากจำเป็นต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งประหยัดมากกว่ากันครึ่งต่อครึ่ง แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวไหนกินไฟมากกว่า ผู้เขียนได้เห็นบทความหนึ่งเกี่ยวกับการวัดค่ากินไฟฟ้าด้วยอุปกรณ์มิเตอร์ขนาดเล็ก สามารถนำมาใช้เช็คการกินไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละตัวได้ โดยการนำไปติดการสายเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้านั้น ๆ ลองดูว่าในเดือนหนึ่ง ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นกินไฟเท่าไหร่ หากเราต้องการลดต้องทำอย่างไร ซึ่งสนนราคาเครื่องวัดตัวนี้ก็แค่หลักร้อยเท่านั้นเอง ถือว่าดีมาก ๆ ลอง ๆ ไปหามาใช้ดูนะครับ